Your Keyword Here!

Article : เริ่มต้นเขียนบทความอย่างไร

Sunday, September 1, 2013

งไม่ต้องอธิบายแล้วนะครับว่าบทความคืออะไร ไม่ต้องบอกซ้ำหรอกว่ามันต้องมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน เรารู้กันดีอยู่แล้ว ที่น่าสนใจคือเราจะเขียนอย่างไรมากกว่า
สำหรับบางคนที่อาจมีประสบการณ์เหมือนผมตอนเริ่มเขียนบทความ

  • ไม่รู้จะเขียนบทความอะไร
  • ไม่เข้าใจในเรื่องที่อยากเขียน ก็อยากทำบล็อก keyword นี้แต่ไม่มีความรู้ T_T
  • เขียนแล้วกลัวเนื้อหาดีไม่พอ
  • มีเรื่องที่อยากเขียนแต่เริ่มต้นไม่ได้สักที
  • เขียนไปสักพักเกิดวิตกจริต บทความแบบนี้มีเยอะแล้วดีกว่านี้ด้วยใครจะมาอ่านของเรา


แต่สำหรับตอนเริ่มต้นจริงๆบางคนอาจเคยเป็นนักบริโภคข้อมูลตัวจริง (บริโภคจัง) จะมีอาการประมาณว่า วันนี้ตั้งใจจะทำblog ล่ะ จะต้องเขียนบทความไปโพสให้ได้ อ้าวแล้วบทความเขาเขียนกันยังไง? ไม่เป็นไรนี่มันโลกอินเตอร์เน็ตอยากรู้ไรถามพี่กู (google) แล้วก็ไปค้นหาด้วย keyword ต่างๆ เริ่มบริโภคข้อมูล พออ่านไปเจออันนั้นเราก็ยังไม่รู้ โอ้อันนี้เจ๋ง อันนี้เคล็ดลับสุดๆ ต้องเก็บให้หมด อ่านไปเรื่อยเลยไปเรื่องอื่นๆด้วยเพราะคิดว่าอันนี้ก็น่าจะรู้อันนั้นใช้งานได้แน่

  • บางคนอ่านไปเจอบทความที่ทำให้รู้ตัวเองว่าเรามันช่างไม่รู้เรื่องเอาซะเลยแล้วเกิดอาการท้อแท้เบื่อหน่ายไปเลยก็มี
  • บางคนพอมีสติ คิดได้เอาล่ะพอแค่นี้เริ่มเขียนล่ะ แล้วก็มานั่งเฝ้า keyboard จะเริ่มยังไงดีล่ะ!!
  • เวลาหมดสุดท้ายไม่ได้เริ่ม
  • เลิก 
คำแนะนำสำหรับการเขียนบทความ

  1. เริ่มเขียนบทความให้ได้ก่อน
  2. เขียนให้เป็นรูปแบบ (แบบของเราเอง)
  3. เขียนให้น่าอ่านเป็นกันเอง คนอ่านแล้วสบายใจอยากกลับมาอ่านบทความที่เราเขียน
  4. เขียนให้ถูกหลัก SEO

สำหรับบทความนี้ยังไม่ต้องไปไหนครับ เอาแค่ข้อแรกนี่ล่ะ(อย่าพึ่งหิวเกินไป ค่อยๆกิน)

การเริ่มต้นอยากแนะนำให้เขียนเรื่องที่เราถนัด เรื่องใกล้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ในชีวิตไม่เคยคิดอยากจะเขียนอะไรมาก่อนเลย(ผมก็คนนึงล่ะ) เช่นเรื่องงานประจำ ที่ๆคุณอาศัยอยู่ หรือแม้กระทั่ง บันทึกประจำวันของคุณเอง 

อ้าวไหนบอกว่าบทความต้องมีประโยชน์ บันทึกประจำวัน? งานประจำ? เรื่องใกล้ตัวเรา? มันจะมีใครอยากอ่านกัน

ถ้าวันๆคุณทำงานอ๊อฟฟิตถ่ายเอกสารเครื่องเดิมๆที่รวนเป็นประจำ ในที่ทำงานมีแต่คุณที่จัดการมันได้ถ้าคุณไม่ไปทำงานสักวันสาวอ๊อฟฟิตคงคิดถึงคุณแย่แน่ แค่นี้ต้องเขียนลงblogเลยเรอะ แล้วเครื่องถ่ายเอกสารแบบเดียวกันกับที่คุณใช้ก็คงไม่ใช่เครื่องเดียวในโลกหรอก

ยิ่งอาชีพของคุณเป็นอาชีพที่คนไม่ค่อยรู้จักยิ่งจะทำให้บทความที่คุณเขียนเกี่ยวกับมันเป็นเรื่องที่ Unique (ดีและมีคนเขียนน้อย ค้นหาแล้วมีโอกาสเจอบทความเราสูงมาก)

แล้วบันทึกล่ะใครจะอยากอ่านเราเองก็ไม่ใช่ดาราคนดัง ลองคิดดูว่าที่ผมจะบอกต่อไปนี้จริงใหม ประสบการณ์ของใครในโลกในแต่ละวินาทีไม่มีทางไปซ้ำกันแม้ผมกับคุณไปเจอเรื่องราวพร้อมๆกันก็ไม่มีทางบรรยายความรู็สึกต่อเหตุการณ์ได้เหมือนกัน ถามซ้ำ"แล้วมันจะมีประโยชน์กับใคร" อย่างน้อยก็ตัวคุณล่ะ และก็อีกนั่นล่ะคนอย่างคุณไม่ได้มีคนเดียวในโลก

ที่แนะนำให้เขียนเรื่องใกล้ตัวเพราะเราไม่ต้องไปเสียเวลาหาข้อมูล(มันอยู่ในหัวคุณอยู่แล้ว) คุณจะสามารถเขียนตามเรื่องราวจริงๆที่คุณเจอมาซึ่งมันจะเป็นบทความที่ไม่ซ้ำใครแน่นอน
บางคนบอกวันๆผมไม่ทำอะไรเลยจีบหญิงไปวันๆ นั่นก็เรื่องที่คนค้นหาในเน็ตอันดับต้นๆเลยนะครับ



เอาล่ะเลือกเรื่องได้แล้ว เริ่มเขียนบทความเลยดีกว่า ..........
...วิธีดึงดูดความสนใจ กสอ้่ร ้ะ่วรหนิ่ี้งยนห่ี้นาะงยน.................??????????????????????
เริ่มไม่ได้ ไม่รู้จะเริ่มยังไง หากมีอาการแบบนี้ นึถึงหลายบทความที่คุณไปอ่านมาคงแนะนำให้ร่างโครงสร้างขึ้นมา ให้มีส่วนประกอบ

  • เกริ่นนำน่าสนใจ(ให้อยากอ่านต่อ เขียนหลังสุดได้) 
  • เนื้อเรื่อง(บรรยายเรื่องที่คุณอยากให้ชาวบ้านเขารู้ อาจแตกเป็นส่วนย่อยๆให้เขียนง่ายๆ เป็นข้ันเป็นตอน) 
  • สรุป(นี่ล่ะประเด็นหลักเรื่องที่เล่าไป)
ใช่ครับก็อยากให้ทำได้อย่างนั้นแหละครับ แต่มันก็ยังเขียนไม่ออกอีก ตกลงเรามันโง่เองใช่ใหมนี่ก็รู้ขั้นตอนหมดแล้วแต่ทำไมเขียนไม่ได้สักที อย่าพึ่งท้อครับลืมเรื่องส่วนประกอบไปก่อนแล้วอ่านเรื่องนี้ก่อนจะตัดสินใจบอกว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะเขียนบทความ


นชั้นเรียนประถมแห่งหนึ่ง ชั่วโมงภาษาไทย ครูประจำชั้นเข้ามาสอนและให้การบ้านนักเรียนเขียนเรียงความเรื่อง "โรงเรียนของฉัน" ความยาวอย่างน้อยหนึ่งหน้ากระดาษ ให้เวลาเขียนหนึ่งวัน วันรุ่งขึ้นให้เอามาอ่านให้เพื่อนๆฟัง ว้นนี้เวลายังไม่หมดให้นักเรียนสามารถเริ่มเขียนได้เลยใครเสร็จทันในชั่วโมงก็เล่นได้ตามสบาย แล้วครูปล่อยเด็กๆเขียนเรียงความตามลำพัง 
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ครูก็เข้าไปเดินดู เรียงความของเด็กแต่ละคน บางคนก็เขียนได้เป็นหน้าแล้ว ส่วนใหญ่เด็กผู้หญิงจะเขียนกันเกือบเสร็จแล้ว ครูเดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงโต๊ะของเด็กชายเก่ง พอครูเอ่ยถาม "ยังไม่เริ่มเขียนเหรอครับ" เก่งก็น้ำตาซึมก่อนจะบอกคุณครูด้วยน้ำเสียงสั่นๆไปว่า "โรงเรียนมันกว้างจริงๆครับผมไม่รู้จะเริ่มเขียนตรงไหน ผมคิดว่ามันยากเกินไปสำหรับผมครับ"

คุณครูเลยบอกเด็กชายเก่งว่า "เก่งจ้ะไม่ต้องรีบเขียนครูให้เป็นการบ้านได้ ครูก็คิดว่า โรงเรียนมันอาจจะใหญ่ไปจริงๆงั้นตอนโรงเรียนเลิกเก่งเอาก้อนหินสวยๆก้อนเล็กที่ประดับหน้าประตูโรงเรียนกลับไปบ้านด้วยนะแล้วก็เขียนเรื่องก้อนหินก้อนนั้นมาส่งพรุ่งนี้นะจ้ะ" เด็กชายเก่งดีใจรีบขอบคุณครูเพราะมั่นในว่าเขาเขียนได้แน่นอนเพราะเขาจะเล่นอยู่ที่ประตูโรงเรียนเป็นประจำก่อนขึ้นรถกลับบ้าน เย็นนั้นเด็กชายเก่งก็เล่นที่หน้าประตูโรงเรียนเช่นเคยแต่เขาไม่ได้หยิบก้อนหินกลับบ้าน

วันรุ่งขึ้นในห้องเรียนชั่วโมงภาษาไทย ครูก็ให้นักเรียนแต่ละคนออกไปอ่านเรียงความของตนหน้าชั้นเรียน คนแล้วคนเล่าจนมาถึงคราวของเด็กชายเก่ง ซึ่งคุณครูอนุญาตให้เขียนเรียงความเรื่องก้อนหินหน้าประตูโรงเรียนได้ แล้วเด็กชายเก่งก็เริ่มอ่าน
"สวัสดีครับ วันนี้ผมจะเสนอเรียงความเรื่อง โรงเรียนของฉัน มีก้อนหินสวยๆรูปร่างรีๆเหมือนไข่ไก่ผิวมันวาวสะท้อนแสงแสบตา มีหลายสี สีเทา สีเหลืองอ่อน สีดำก็มี  จับแล้วรู้สึกเย็นมือดี มีหลายขนาดใหญ่จนยกไม่ได้ก็มีหลายก้อนแต่ที่ผมชอบคือก้อนเล็กๆ ผมชอบเอามาโยนเล่นกับเพื่อนๆแต่พวกผมก็เอามันไปวางไว้ที่โคนต้นไม้เหมือนเดิมทุกครั้งเพราะมันทำให้ต้นไม้ในสวนหย่อมหน้าประตูโรงเรียนดูสวยขึ้น ด้านหลังประตูเป็นอุโมงค์ต้นไม้ยาวไปจนถึงลานพระพุทธรูปกลางโรงเรียน ซึ่งมีพระประธานประจำโรงเรียนองค์ใหญ่........................................................................................................................................................................................................................................................................................."
แล้วเก่งก็อ่านเรียงความไปจนจบสี่หน้ากระดาษเพื่อนๆและคุณครูตบมือให้ เก่งยิ้มด้วยความดีใจและภูมิใจ

เริ่มแบบนั้นเลยครับ ส่วนที่เรารู้จักดีที่สุด คุ้นเคยที่สุด ง่ายที่สุด เริ่มมันจากตรงนั้นเลย แล้วอะไรล่ะที่ใกล้ที่สุด..."ความรู้สึกของคุณเองครับ"...บทความจะเป็นบทความที่จริงที่สุด Unique ที่สุด อ่านแล้วรับรู้ง่ายที่สุด

พอคุณเริ่มเขียนบทความได้แล้วคุณจะพบปัญหาที่จะตามมา ก็คือ คุณเขียนไม่ทัน 
อ้อเขียนแล้วก็อย่าลืมใส่ Meta Description ด้วยนะครับ

No comments:

Post a Comment